‘โอสถสภา’ องค์กรที่ใฝ่ฝัน 2559
“โอสถสภาเชื่อมั่นว่าการสร้างโอกาสและพัฒนาบุคลากรถือเป็นพันธกิจที่สำคัญ เพราะเราเชื่อว่าบุคลากรเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดขององค์กร”
คุยกันเรื่องทรัพยากรบุคคล
“โอสถสภา มุ่งมั่นเสริมสร้างชีวิตของผู้บริโภคและสังคมไทยด้วยผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่ทันสมัย โดยมีวัฒนธรรมองค์กรมุ่งเน้นผลสำเร็จในการดำเนินงานที่เป็นเลิศและยึดหลักธรรมมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ” กว่า 125 ปีที่โอสถสภายืนหยัดเคียงคู่คนไทยและสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในการดูแลและส่งเสริมสุขภาพเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและทันสมัยที่สุด วันนี้เรายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นพลังเพื่อผู้บริโภค ด้วยการมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับผู้บริโภคในทุกวัน วันนี้แบรนด์ของโอสถสภาเป็นผู้นำในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์และเป็นที่รู้จักกันในหมู่ผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม อาทิ
กลุ่มแม่และเด็ก : Babi Mild
กลุ่มนักเรียน นักศึกษา : 12Plus / Peptein / Exit / Botan
กลุ่มคนทำงาน : M-150 / Lipo / Shark / Banner เป็นต้น
คุณจินตนา อาภาอดุล ผู้อำนวยการทรัพยากรบุคคลกลาง กล่าวว่า โอสถสภามุ่งมั่นเพื่อเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นประสิทธิภาพ พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาทักษะของตนเองให้เติบโตไปกับองค์กร พนักงานโอสถสภาทุกคนมีวิถีปฏิบัติภายใต้ ITIP 4 ประการ ได้แก่ 1) I-Integrity มีคุณธรรมและมีความรับผิดชอบ 2) T-Teamwork การทำงานเป็นทีม 3) I-Innovative Thinking ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 4) P-Passion to Win มุ่งมั่นคว้าชัยชนะ
โอสถสภาภูมิใจที่ได้รับเลือกให้เป็นองค์กรที่ใฝ่ฝัน เพราะเราเชื่อมั่นว่าการสร้างโอกาสและพัฒนาบุคลากรถือเป็นพันธกิจสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเราเชื่อว่าบุคลากรเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดขององค์กร
โอสถสภา...พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต
บริษัท โอสถสภา จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2434 (โดยมีชื่อเดิมว่า “ร้านขายยาเต๊กเฮงหยู”) กว่าหนึ่งศตวรรษแห่งการดำเนินธุรกิจ โอสถสภามุ่งมั่นพัฒนาผลิภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต่อความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในทุกช่วงวัยโดยมีนวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อน
ปี พ.ศ.2508 โอสถสภาเปิดตัวเครื่องดื่มให้พลังงานเป็นครั้งแรกในประเทศไทยภายใต้แบรนด์ ลิโพวิตันดี จากบริษัท ไทโช ฟาร์มาซูติคอล ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาในปี พ.ศ.2530 บริษัทได้พัฒนาเครื่องดื่มให้พลังงานเป็นของตัวเอง ภายใต้แบรนด์ M-150 และครองเป็นผู้นำอันดับ 1 จนถึงวันนี้ ด้วยรสชาติที่ถูกปากถูกใจคนไทย ต่อมาโอสถสภาได้ขยายธุรกิจไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล อาทิ แบรนด์ Babi Mild ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ และอ่อนโยนต่อผิว ปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ยอดนิยมสำหรับวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ ภายใต้ชื่อ 12Plus ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ติดอันดับสินค้ายอดนิยม จนคว้ารางวัลซุปเปอร์แบรนด์ไทยแลนด์มาครองหลายปีติดต่อกัน โอสถสภายังได้เปิดตลาดฟังก์ชันนัลดริ๊งค์ในเมืองไทย โดยการนำ Soy Peptide มาเป็นส่วนประกอบและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีภายใต้แบรนด์ Peptein
โอสถสภาให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและการทำประโยชน์คืนสู่สังคม โดยในปี พ.ศ.2538 ได้จัดตั้งมูลนิธิโอสถสภาเพื่อให้การสนับสนุนกิจการด้านสาธารณสุข การศึกษา และกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์ อื่นๆ อาทิตย์
- โครงการฟันเทียมพระราชทาน เป็นโครงการจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อมอบฟันเทียมให้กับผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาส ปัจจุบันสนับสนุนการดำเนินการมอบฟันเทียมให้กับผู้สูงอายุไปแล้ว 24 จังหวัด กว่า 2,400 คน ทั่วประเทศ
- โครงการมอบทุนการศุกษาให้แก่นักเรียนแพทย์ เภสัช และพยาบาล ตั้งแต่ปีการศึกษาที่หนึ่งไปจนจบการศึกษาโดยไม่มีข้อผูกมัด ปัจจุบันมีนักศึกษาที่ได้รับทุนแล้วกว่า 300 ทุน ด้านสิ่งแวดล้อม โอสถสภาเป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิ 3R ขึ้น เพื่อบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยนำแนวคิด Reuse Reduce และ Recycle มาใช้ในกระบวนการผลิต อาทิ
- การใช้ปริมาณเศษแก้วกว่า 90% ในการผลิตขวด ทั้งนี้ลดการใช้ทรายจากธรรมชาติ
- การใช้ก๊าซธรรมชาติแทนการใช้น้ำมัน
- การใช้ไอน้ำจากโรงงานผลิตขวดแก้วมาใช้ในการล้างขวด
เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจที่ดีจะต้องขับเคลื่อนและอยู่ร่วมกับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นสุข โอสถสภา พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต
จากหนังสือ : องค์กรที่ใฝ่ฝัน 2559 ฉบับพิเศษ กรุงเทพธุรกิจ
