โอสถสภา แบ่งฝัน ปันสุข ปี 3 จ.ลพบุรี

จากปณิธานของผู้บริหารที่สืบสานต่อกันมารุ่นสู่รุ่น ใจความว่า “เมื่อเราทำธุรกิจ เราต้องรู้จักตอบแทนและคืนกำไรให้สังคมด้วย และที่สำคัญเรามีวันนี้ได้เพราะคนไทยช่วยเหลือและสนับสนุนเรา” แนวคิดนี้ยังคงถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่ชาวโอสถสภายึดมั่นและถ่ายทอดสู่ผู้บริหารและพนักงาน เพื่อสร้างสังคมแห่งการให้และปลูกจิตสำนึกแห่งการเป็นผู้ให้ เหมือนกับความหมายของคำว่า เต๊กเฮงหยู (ชื่อเดิมของโอสถสภา) ที่แปลว่า เจริญโดยการช่วยเหลือผู้อื่น
กว่า 123 ปีที่โอสถสภา อยู่คู่กับสังคมไทย มีความรักความผูกพันกับคนไทย มาอย่างยาวนาน เรายังคงยึดถือในปณิธาน และความตั้งใจในการดำเนินกิจการทางธุรกิจควบคู่ไปกับการตอบแทนสังคม ภายใต้แนวคิด “อยากเห็นคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี..ยิ่งกว่า” จึงเป็นที่มาของโครงการโอสถสภา เพื่อชีวิตที่ดี..ยิ่งกว่า โครงการเพื่อสังคมที่ช่วยเหลือผู้ยากไร้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและยืนหยัดได้อย่างยั่งยืน
และในปีนี้ โอสถสภา ได้จัด กิจกรรม โอสถสภา แบ่งฝัน ปันสุข (Big Giving Day)เป็นปีที่ 3 ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้โครงการโอสถสภาเพื่อชีวิตที่ดี..ยิ่งกว่า ที่โอสถสภาได้เปิดโอกาสให้ผู้บริหารและพนักงานลงพื้นที่และทำประโยชน์ร่วมกับชุมชน ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.สระบุรี จ.ฉะเชิงเทรา จ.ลพบุรี ซึ่งในวันที่ 10 มิถุนายน ศกนี้ โอสถสภาจะร่วมส่งมอบกิจกรรมที่จังหวัดลพบุรีรวม 3 พื้นที่ คือ โรงเรียนวัดโพธิ์เก้าต้น โรงเรียนบ้านสามเรือน และโรงเรียนวัดสระมะเกลือ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนำทีมโดย คุณธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานอาวุโส คณะผู้บริหาร พนักงานจิตอาสา ศิลปินค่ายชัวร์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ และ บอย – เต็นท์ 2 พิธีกรคู่หูจากรายการตกมันส์บันเทิงจาก 9 Entertainพร้อมด้วยนักฟุตบอลจากทีมโอสถสภา M – 150 สระบุรี มาร่วมสร้างสีสันภายในงาน
ทั้งนี้ กิจกรรมโอสถสภาแบ่งฝัน ปันสุข ได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายคนทำดี จ.ลพบุรี ร่วมทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ และสานต่อปณิธานแห่ง “การให้” โดยร่วมส่งมอบผลงานแห่งความภาคภูมิใจ สร้างความยั่งยืนทางการศึกษา พัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนและคนในชุมชนให้ดียิ่งขึ้นผ่านโครงการสาธารณประโยชน์ตามรายละเอียดดังนี้
- โรงเรียนวัดโพธิ์เก้าต้น ร่วมพัฒนาสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย โดยการมอบทุนสนับสนุนโครงการพัฒนาชุดการแสดงโขนสด ลิเกเด็กและจัดตั้งกองทุนเพื่อจัดหาชุดแต่งกายสำหรับการแสดงลิเกและโขนสดในแต่ละรุ่น พร้อมทั้งสนับสนุนการทำแปลงเกษตรอินทรีย์เพื่อใช้เป็นอาหารกลางวันและเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนต่อไป
- โรงเรียนบ้านสามเรือน ร่วมสร้างความยั่งยืนทางการศึกษา โดยการบูรณาการซ่อมแซมอาคารเรียน และโรงอาหารให้มีความสวยงาม ปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งมอบอุปกรณ์กีฬา เพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับนักเรียน
- โรงเรียนวัดสระมะเกลือร่วมสานต่อโครงการเกษตรพอเพียง โดยการปรับปรุงโรงเพาะเห็ดให้มีมาตรฐาน จัดสร้างโรงเลี้ยงไก่ไข่ แปลงผักสวนครัว ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ทางการเกษตรและเป็นอาหารกลางวันของโรงเรียน พร้อมแนะแนววิธีแปรรูปเห็ดเพื่อสร้างรายได้ รวมทั้งปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียนให้มีสภาพสมบูรณ์สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการดำนาสาธิตแปลงปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ระหว่างผู้บริหารและศิลปินดารา เพื่อนำมาเป็นอาหารหลางวันแก่เด็กนักเรียนอีกด้วย ทั้งหมดนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งที่โอสถสภาคิดและทำเพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าวันนี้และตลอดไป