โอสถสภาภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นพลังส่งเสริมอาชีพและแนวทางการพึ่งพา เพื่อชีวิตที่ยั่งยืนของกลุ่มคนพิการและชุมชน

เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ได้สนับสนุนและส่งเสริมอาชีพให้คนพิการภายใต้แนวคิด “ให้เบ็ดดีกว่าให้ปลา” ที่มุ่งเน้นให้ผู้พิการพัฒนาตนเอง จนสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ เพื่อให้ผู้พิการมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองได้ ปัจจุบันมีผู้พิการเข้าร่วมกว่า 90 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้พิการที่ประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้เหมือนเดิม
 
โอสถสภาได้ให้เบ็ดโดยการค้นหาและส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม พร้อมให้ความรู้และจัดสรรอุปกรณ์และเครื่องมือในการประกอบอาชีพ ทั้งยังช่วยออกแบบตราสินค้า บรรจุภัณฑ์สินค้า จัดหาตลาด และสร้างช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทางอาชีพแก่ผู้พิการในโครงการฯ อาทิ การจัดตั้งศูนย์ต้นแบบเกษตรอินทรีย์คนพิการ อำเภออุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น การสอนอาชีพจักสาน และการสอนอาชีพงานไม้ สามารถทำให้ผู้พิการมีรายได้ที่มั่นคง โดยมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นราว 2,000-5,000 บาทต่อเดือน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น และมีความหวังและมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไป
 
โอสถสภาภูมิใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้เห็นว่าโครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเติมพลังความสุขและความหวังให้แก่คนพิการที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดกำเนิดของการต่อยอดและถ่ายทอดพลังให้แก่ชุมชน เรียกได้ว่าเป็นแนวทางการพึ่งพากันในกลุ่มคนพิการและชุมชนได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนอย่างแท้จริง

เมื่อเร็วๆ นี้ นายธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานคณะกรรมการบริหาร และนางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. โอสถสภา ได้เดินทางไปให้กำลังใจและร่วมเปิดโรงผลิตก้อนเห็ด ซึ่งคนพิการของศูนย์ต้นแบบเกษตรอินทรีย์คนพิการได้ทำการต่อยอดจากโรงเพาะเห็ด โดยเริ่มผลิตก้อนเห็ดขึ้นเอง และส่งไปยังโรงเพาะเห็ดของสมาชิกในโครงการ อีก 14 ราย ช่วยลดต้นทุนการผลิต และยังช่วยสร้างรายได้เพิ่มจากการจำหน่ายก้อนเห็ดให้แก่บุคคลทั่วไป โดยในแต่ละเดือน ศูนย์ต้นแบบฯ สามารถผลิตก้อนเห็ดได้ 20,000 ก้อน สร้างรายได้ 160,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ศูนย์ต้นแบบฯ ยังเป็นพี่เลี้ยงคอยให้ความรู้ ดูแล และเป็นที่ปรึกษาด้านการเพาะเห็ดให้กับสมาชิกคนอื่นๆ ในโครงการอีกด้วย

       อีกหนึ่งความภูมิใจคือ ผู้พิการในโครงการบางรายได้เปลี่ยนสถานะจาก “ผู้รับ” ไปเป็น “ผู้ให้” สามารถช่วยเหลือผู้อื่น เป็นแบบอย่างและแบ่งปันความรู้ให้แก่ผู้อื่น เช่น ป้าละมัยได้รับการส่งเสริมอาชีพจักสาน จนสามารถสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว และวันนี้ป้าละมัยได้เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และช่วยฝึกสอนเพื่อนๆ ในชุมชน เช่นเดียวกับพี่สมพาน ที่ได้รับการฝึกอาชีพและการสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับงานไม้จนสามาถสร้างรายได้จากงานไม้ที่สวยงามมากมาย มอบงานไม้ฝีมือของตนเองให้กับโรงเรียนและเด็กนักเรียนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ และยังช่วยฝึกสอนสมาชิกอื่นๆ ของโครงการอีกด้วย

นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. โอสถสภา กล่าวว่า “โอสถสภาภาคภูมิใจที่ได้ร่วมสร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้พิการ และยิ่งไปกว่านั้น การได้เห็นผู้พิการในโครงการได้หยิบยื่นเบ็ดของตนให้กับผู้อื่น และช่วยกันต่อยอดและสร้างแนวทางการพึ่งพาซึ่งกันและกันยิ่งช่วยทำให้เรามั่นใจว่าโครงการนี้จะเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมไทยได้อย่างแท้จริง ”