ตามที่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัทฯ ในเครือ (“บริษัทฯ”) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน
ผู้สมัครฝึกงาน และนักศึกษาฝึกงาน บริษัทมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อเป็นการรับรอง
สิทธิของบุคคลที่จะต้องได้รับความคุ้มครองเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคล โดยเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งรายละเอียด
การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยบริษัทฯ
อาจดำเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนี้ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางและหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงไป
ดังนั้น ท่านจึงควรติดตามแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้นี้อยู่เสมอ
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (“ประมวลผล”) และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ
บริษัทฯ จะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ดังต่อไปนี้
ก) ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล รูปถ่าย วุฒิการศึกษา ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ตำแหน่งงาน ที่อยู่
ข้อมูลบนบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ลายมือชื่อ ข้อมูลวีซ่า ใบอนุญาตทำงาน บัตรประจำตัวคนต่างชาติ
การบันทึกภาพและเสียงสนทนาจากการประชุมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ เช่น เลขทะเบียน ยี่ห้อ รุ่น และสีของรถยนต์ เป็นต้น และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใดที่ท่านให้กับบริษัทฯ (เช่น Resume Curriculum Vitae (CV)
จดหมายสมัครงาน ใบสมัครงาน ความเห็นประกอบการสรรหาพนักงาน)
ข) ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของท่าน ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงาน และข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของท่าน
ค) ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ได้แก่ ศาสนา โรคประจำตัว ข้อมูลสุขภาพสำหรับการเข้าพื้นที่สำนักงาน/พื้นที่ปฏิบัติการ (เช่น อุณหภูมิของร่างกาย อาการต่าง ๆ เพื่อการคัดกรองโรค
รวมถึง COVID-19) ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลความพิการ ประวัติอาชญากรรม ซึ่งบริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน หรือมีความจำเป็นตามที่กฎหมายอนุญาตให้ดำเนินการได้
ง) ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคารหรือรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับบัญชีธนาคาร
จ) ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ (Location) โดยใช้เทคโนโลยีระบุตำแหน่ง
ประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดดูเว็บไซต์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกเว็บไซต์ ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้เว็บไซต์ ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ
(Login Log) ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log) สถิติการเข้าเว็บไซต์ เวลาที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ (Access Time) ข้อมูลที่ถูกค้นหาหรือเข้าชม ข้อมูลการใช้สื่อสังคมออนไลน์
(Social Media) การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ในเว็บไซต์ และข้อมูลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookie) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน เป็นต้น
ฉ) บันทึกภาพนิ่งหรือบันทึกภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) หรือบันทึกเสียงการสนทนา หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้
ช) ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ข้อมูลบนบัตรประจําตัวประชาชน อายุ สัญชาติ ของญาติ เช่น คู่สมรส บุตร บิดา มารดา เป็นต้น ผู้ติดต่อ
ผู้ค้ำประกัน และข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่ท่านให้กับบริษัท
หมายเหตุ
กรณีที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ จากการขอข้อมูลเพื่อการยืนยันตัวบุคคลหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด
และข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวไม่มีความจำเป็นต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ท่านสามารถทำการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวก่อนนำส่งข้อมูลให้แก่บริษัทฯ ได้
โดยหากท่านไม่ได้ทำการปกปิดดังกล่าว บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวบนเอกสารที่ได้รับมา โดยจะไม่ถือว่าบริษัทฯ ได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วน
บุคคลอ่อนไหวดังกล่าวจากท่าน
2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทาง ดังนี้
ก) ระบบปฏิบัติการต่างๆ หรือระบบสารสนเทศ (IT) เว็บไซต์ของบริษัทฯ อีเมล โทรศัพท์ โทรสาร นามบัตร จดหมาย ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้รับจากท่านโดยตรง
ข) เว็บไซต์สาธารณะ คู่ค้าหรือคู่สัญญาอื่น ๆ บริษัทในเครือของบริษัทฯ
หมายเหตุ
กรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ เราอาจใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กำหนดไว้ใน
นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookie)
3. วัตถุประสงค์ในการประมวลผล
บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ก) เพื่อดำเนินการที่จำเป็นในการสรรหา การพิจารณาและคัดเลือกผู้สมัครงาน ผู้สมัครฝึกงาน หรือนักศึกษาฝึกงาน
ซึ่งหมายความรวมถึงขั้นตอนสมัครผ่านช่องทางการสมัครงานและการสมัครฝึกงานออนไลน์เช่น Email, เว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือเว็บไซต์สมัครงานต่าง ๆ การสมัครงานหรือการสมัครฝึกงานผ่านทางโอสถสภาโดยตรง การพิจารณารับนักศึกษาฝึกงาน
ตามรายชื่อที่ได้รับจากสถานศึกษา ขั้นตอนการสัมภาษณ์ ขั้นตอนการประเมินคัดเลือก ขั้นตอนการเสนอสัญญาเข้าทำงานหรือสัญญาเข้าฝึกงานให้แก่ท่าน และกระบวนการบริหารงานบุคคลอื่น ๆ
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาและคัดเลือกเข้าทำงานหรือเข้าฝึกงานกับบริษัทฯ
ข) เพื่อการบันทึก การจัดเก็บ และการประมวลผลข้อมูลข้างต้นสำหรับการนำเสนอตำแหน่งงานที่ว่างหรือโอกาสด้านการจ้างงานในอนาคต
ค) เพื่อการส่งต่อหรือการแบ่งปันข้อมูล การติดต่อสื่อสาร การประสานงาน กับทั้งภายในองค์กรและภายนอกองค์กร ที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ
ง) เพื่อการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกและจัดการการบริโภคตามความเชื่อทางศาสนาของท่านในสถานที่ทำงานและเมื่อบริษัทฯ มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ
จ) เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของท่านจากประวัติอาชญากรรม ด้านกฎหมายฟอกเงิน ด้านผลประโยชน์ทับซ้อนหรือการฉ้อโกง การหนีภาษี การใช้ข้อมูลภายใน (Insider Trading)
และการตรวจสอบการป้องกันอาชญากรรมด้านการเงินอื่น ๆ
ฉ) เพื่อติดต่อบุคคลที่ท่านให้ข้อมูลติดต่อไว้ในกรณีจำเป็น หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น แจ้งเหตุอันตรายที่เกิดแก่ผู้สมัครงาน ผู้สมัครฝึกงาน หรือนักศึกษาฝึกงาน ให้ทราบ
ช) เพื่อเป็นฐานข้อมูลและเพื่อยืนยันตัวตนในการว่าจ้างพนักงานบริษัทหรือนักศึกษาฝึกงาน
ซ) เพื่อประกอบการรายงานหน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น กระทรวงแรงงาน
ฌ) เพื่อการจัดการให้เป็นไปตามสัญญาหรือข้อตกลงใด ๆ ที่บริษัทฯ มีกับท่าน การจ่ายค่าตอบแทน (ถ้ามี) การลงเวลาเข้า-ออกในการทำงานหรือฝึกงาน การศึกษาดูงาน การอนุญาตเข้าระบบ
สารสนเทศและฐานข้อมูลที่จำเป็นต่อการฝึกงาน รวมถึงการทำสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
ญ) เพื่อการจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอันเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานตามสัญญา
ฎ) เพื่อยื่นขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และใช้เพื่อออกจดหมายรับรองในการขอวีซ่าเพื่อเดินทางมายังประเทศไทยสำหรับผู้สมัครชาวต่างชาติ
ฏ) เพื่อความจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการ
ตามความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย
ฐ) เพื่อการตรวจสอบภายใน การตรวจสอบข้อร้องเรียน หรือข้อเรียกร้อง เพื่อป้องกันการทุจริตและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงป้องกันการกระทำผิด หรือการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย
ฑ) เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ด้วยวิธีการต่าง ๆ รวมถึงการบันทึกภาพด้วยระบบกล้องวงจรปิด (CCTV)
ฒ) เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการตรวจสุขภาพและตรวจสอบความพร้อมต่อการปฏิบัติงานของผู้สมัครงาน ผู้สมัครฝึกงานและนักศึกษาฝึกงาน เพื่อป้องกันอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่สำนักงาน
/พื้นที่ปฏิบัติการของบริษัทฯ รวมถึงการคัดกรองโรค ประเมินความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อก่อนเข้าพื้นที่สำนักงาน/พื้นที่ปฏิบัติการของบริษัทฯ
ณ) เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน ซึ่งท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้เองไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม รวมถึงกรณีที่เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ
หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัท หรือลูกจ้าง หรือผู้แทนของบริษัท หรือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
4. ฐานในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยทั่วไป บริษัทฯ ดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้
ก) การปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ตามที่ท่านร้องขอก่อนจะเข้าทำสัญญากับบริษัท
ข) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือบุคคลภายนอก โดยที่ประโยชน์ดังกล่าวไม่เกินกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ค) เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย
ง) ความยินยอมที่บริษัทได้รับจากท่านในหนังสือขอความยินยอมให้เก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
จ) กรณีอื่นใดที่สามารถทำได้ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย
เฉพาะในกรณี การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน บริษัทฯ ดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้
ก) ความยินยอมโดยชัดแจ้งที่บริษัทฯ ได้รับจากท่านในหนังสือขอความยินยอมให้เก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ข) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน
ค) เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ง) เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายในบริษัทฯ บริษัทย่อย หรือบริษัทในเครือ
บริษัทฯ อาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดข้างต้น
โดยบริษัทฯ อาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในบริษัทฯ บริษัทย่อย หรือบริษัทในเครือ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เท่าประเทศไทย
ซึ่งบริษัทฯ จะทำให้มั่นใจว่าการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นจะเป็นไปตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม
หากท่านได้ให้ความยินยอม หรือเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ บริษัทฯ อาจส่ง โอน และ/หรือ
เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่นดังต่อไปนี้ ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งนี้ บริษัทฯ
จะดำเนินการภายใต้กรอบที่กฎหมายกำหนดและจะจัดให้มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอสำหรับการดำเนินการดังกล่าวดังต่อไปนี้
ก) บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งบริษัทฯ มีหน้าที่หรือถูกร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยศาลที่มีเขตอำนาจ หรือโดยหน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานด้านภาษี หรือหน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
หรือหน่วยงานในลักษณะเดียวกัน
ข) ที่ปรึกษาหรือผู้ให้คำปรึกษาด้านวิชาชีพของบริษัทฯ รวมถึงทนายความ นายธนาคาร ผู้สอบบัญชี นักบัญชี และผู้รับประกันภัย ที่ให้บริการงานให้คำปรึกษา กฎหมาย การธนาคาร การตรวจสอบ บัญชี หรือประกันภัยแก่บริษัทฯ
ค) สถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการระบบชำระเงิน เช่น สถาบันการเงินแห่งอื่นที่ให้บริการระบบการชำระเงินในการทำธุรกรรมของท่าน เป็นต้น
ง) ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท หรือพันธมิตรทางธุรกิจ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เช่น บริษัทซึ่งให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด
บริษัทรับจ้างทำวิจัย บริษัทให้บริการเก็บข้อมูลบนระบบ Cloud บริษัทรับจ้างทวงหนี้ Facebook หรือ Line เป็นต้น
จ) ผู้ตรวจสอบภายนอก ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบอิสระของแฟ้มข้อมูลของท่าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาให้ตรงตามมาตรฐานการดำเนินงานของบริษัทฯ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านกับบุคคลหรือนิติบุคคลภายนอกกลุ่มบริษัท ซึ่งบริษัทฯ อาจขายหรือโอนธุรกิจหรือสินทรัพย์บางส่วนของบริษัทฯ ให้ หรือในทางกลับกันบริษัทฯ
อาจมีแผนเข้าซื้อหรือควบรวมกิจการกับบุคคลหรือนิติบุคคลภายนอก ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจของบริษัทฯ ธุรกิจของบริษัทฯ ในส่วนที่มีการขาย ได้มา หรือควบรวมกับบริษัทอื่น (แล้วแต่กรณี)
อาจมีการใช้ข้อมูลของท่านในลักษณะเดียวกับที่อธิบายไว้ในแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
6. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราและเราได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย
การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลาย โดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย
เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
7. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งต่อท่าน หรือตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
โดยในกรณีที่ท่านยุติความสัมพันธ์ หรือสิ้นสุดสัญญากับบริษัท หรือกรณีไม่มีการใช้บริการหรือการทำธุรกรรมกับบริษัท หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่แจ้ง
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือตามอายุความ หรือเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
บริษัทจะดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
8. สิทธิความเป็นส่วนตัวของท่าน
ในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ดังนี้
ก) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้กับบริษัทฯ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูล
ข) สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการที่มาซึ่งข้อมูลดังกล่าว
ค) ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
ง) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด
จ) สิทธิในการขอลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
ฉ) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด
ช) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่บริษัทฯ มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง
ซ) สิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
9. การติดต่อบริษัทฯ ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย
หากท่านมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ รวมถึงมีคำขอใช้สิทธิของท่าน
กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลของบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อดังนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)
เลขที่ 348 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
อีเมล์:
[email protected]