ตามที่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัทฯ ในเครือ (“บริษัทฯ”) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าร่วมกิจกรรม
(เช่น กิจกรรมเพื่อสังคม กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ การรับฟังความเห็นชุมชน) รวมไปถึงบุคคลผู้เข้ามาติดต่อกับบริษัทฯ และบริษัทมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 เพื่อเป็นการรับรองสิทธิของบุคคลที่จะต้องได้รับความคุ้มครองเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคล โดยเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งรายละเอียด
การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยบริษัทฯ อาจดำเนินการ
ปรับปรุงหรือแก้ไขแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนี้ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางและหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงไป
ดังนั้น ท่านจึงควรติดตามแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้นี้อยู่เสมอ
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (“ประมวลผล”)
บริษัทฯ จะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าร่วมกิจกรรมและผู้มาติดต่อ ดังต่อไปนี้
ก) ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล โซเชียลมีเดีย รูปถ่ายและภาพเคลื่อนไหว ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาหรือการฝึกอบรม
ข้อมูลการทำงาน (เช่นอาชีพ ตำแหน่ง หน่วยงานที่สังกัด) ข้อมูลบนบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ เช่น เลขทะเบียน ยี่ห้อ รุ่น
และสีของรถยนต์ เป็นต้น และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใดที่ท่านให้กับบริษัทฯ
ข) ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรม เช่น งานอดิเรก กิจกรรมที่สนใจ หรือข้อมูลที่ท่านได้เข้าร่วมกิจกรรมกับทางบริษัทฯ
ค) ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็น ความคาดหวังและความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัทฯ
ง) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ เพื่อการอำนวยความสะดวกตามจำเป็น เช่น ข้อมูลการเดินทาง ขนาดเสื้อ อาหารหรือเครื่องดื่มที่ทาน เป็นต้น
จ) ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ได้แก่ เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลสุขภาพสำหรับการเข้าพื้นที่สำนักงาน/พื้นที่ปฏิบัติการ ข้อมูลความพิการ ซึ่งบริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน
หรือมีความจำเป็นตามที่กฎหมายอนุญาตให้ดำเนินการได้
ฉ) ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคารหรือรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับบัญชีธนาคาร หรือที่รายละเอียดการชำระเงินเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของบริษัทฯ
ช) ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ (Location) โดยใช้เทคโนโลยีระบุตำแหน่ง
ประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดดูเว็บไซต์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกเว็บไซต์ ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้เว็บไซต์ ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ (Login Log)
ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log) สถิติการเข้าเว็บไซต์ เวลาที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ (Access Time) ข้อมูลที่ถูกค้นหาหรือเข้าชม ข้อมูลการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)
การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ในเว็บไซต์ และข้อมูลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookie) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน เป็นต้น
ซ) บันทึกภาพนิ่งหรือบันทึกภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) หรือบันทึกเสียงการสนทนา หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้
หมายเหตุ
กรณีที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ จากการขอข้อมูลเพื่อการยืนยันตัวบุคคลหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด
และข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวไม่มีความจำเป็นต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ท่านสามารถทำการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวก่อนนำส่งข้อมูลให้แก่บริษัทฯ
ได้ โดยหากท่านไม่ได้ทำการปกปิดดังกล่าว บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวบนเอกสารที่ได้รับมา โดยจะไม่ถือว่าบริษัทฯ
ได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวดังกล่าวจากท่าน
2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทาง ดังนี้
ก) ระบบปฏิบัติการต่าง ๆ หรือระบบสารสนเทศ (IT) เว็บไซต์ของบริษัทฯ อีเมล โทรศัพท์ โทรสาร นามบัตร จดหมาย ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้รับจากท่านโดยตรง
ข) เว็บไซต์สาธารณะ คู่ค้าหรือคู่สัญญาอื่น ๆ บริษัทในเครือของบริษัทฯ
หมายเหตุ
กรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ เราอาจใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กำหนดไว้ใน
นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookie)
3. วัตถุประสงค์ในการประมวลผล
บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ก) เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านร่วมกิจกรรมของเรา หรือเมื่อท่านเข้ามาติดต่อเราเพื่อให้ดำเนินการใด ๆ
ข) เพื่อดำเนินการที่จำเป็นในการพิจารณาและคัดเลือกผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ ซึ่งหมายความรวมถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์ ขั้นตอนการประเมินคัดเลือก
และกระบวนการบริหารงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาและคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ของบริษัทฯ
ค) เพื่อแจ้งรายละเอียดการเข้ามาติดต่อกับบริษัทฯ หรือกิจกรรมใด ๆ ของบริษัทฯ เช่น รายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม วัน เวลา สถานที่ในการเข้ามาติดต่อ เป็นต้น
ง) เพื่อการจัดเตรียมงานของบริษัทฯ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ให้มีความเหมาะสม และเพื่ออำนวยความสะดวก เช่น การวิเคราะห์และจัดรูปแบบกิจกรรม การจัดหาสถานที่
การจัดหาอาหารและเครื่องดื่ม การจัดหาห้องพัก การจัดเตรียมของชำร่วย รวมถึงการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมเป็นต้น
จ) เพื่อการประเมิน วิเคราะห์ และปรับปรุงการจัดกิจกรรมใด ๆ ของบริษัท ฯ รวมทั้งเพื่อประกอบการขอรับรองมาตรฐานระบบการจัดการ และอาจมีการใช้ภาพถ่าย
บรรยากาศการจัดงานเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการตอบแบบประเมินของหน่วยงานกำกับดูแล หรือการยื่นขอรับรางวัล หรือการประกวดต่าง ๆ เกี่ยวกับการบริหารจัดการองค์กร
ฉ) เพื่อการจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอันเกี่ยวข้อง
ช) เพื่อติดต่อประสานงานทั้งภายในองค์กรและภายนอกองค์กร ที่จำเป็นต่อการดำเนินงาน ของบริษัท
ซ) เพื่อเผยแพร่โฆษณา ประชาสัมพันธ์ กิจกรรมเพื่อการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อช่วยเหลือหรือตอบแทนสังคม (Corporate Social Responsibility : (CSR)) ของบริษัทฯ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
ฌ) เพื่อบริหารจัดการเรื่องร้องเรียน คำติชม หรือข้อเสนอแนะจากท่าน เพื่อปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการให้บริการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ญ) เพื่อความจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
หรือเพื่อการดำเนินการตามความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย
ฎ) เพื่อการตรวจสอบภายใน การตรวจสอบข้อร้องเรียน หรือข้อเรียกร้อง เพื่อป้องกันการทุจริตและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงป้องกันการกระทำผิด หรือการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย
ฏ) เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ด้วยวิธีการต่างๆ รวมถึงการบันทึกภาพด้วยระบบกล้องวงจรปิด (CCTV)
ฐ) เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน ซึ่งท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้เองไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม
รวมถึงกรณีที่เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัท หรือลูกจ้าง หรือผู้แทนของบริษัท หรือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
4. ฐานในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยทั่วไป บริษัทฯ ดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้
ก) การปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ตามที่ท่านร้องขอก่อนจะเข้าทำสัญญากับบริษัท
ข) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือบุคคลภายนอก โดยที่ประโยชน์ดังกล่าวไม่เกินกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ค) เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย
ง) ความยินยอมที่บริษัทได้รับจากท่านในหนังสือขอความยินยอมให้เก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
จ) กรณีอื่นใดที่สามารถทำได้ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย
เฉพาะในกรณี การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน บริษัทฯ ดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้
ก) ความยินยอมโดยชัดแจ้ง ที่บริษัทฯ ได้รับจากท่านในหนังสือขอความยินยอมให้เก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ข) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน
ค) เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ง) เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายในบริษัทฯ บริษัทย่อย หรือบริษัทในเครือ
บริษัทฯ อาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดข้างต้น
โดยบริษัทฯ อาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในบริษัทฯ บริษัทย่อย หรือบริษัทในเครือ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เท่าประเทศไทย
ซึ่งบริษัทฯ จะทำให้มั่นใจว่าการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นจะเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม
หากท่านได้ให้ความยินยอม หรือเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ บริษัทฯ อาจส่ง โอน และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่นดังต่อไปนี้ ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการภายใต้กรอบที่กฎหมายกำหนดและจะจัดให้มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอสำหรับการดำเนินการดังกล่าวดังต่อไปนี้
ก) บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งบริษัทฯ มีหน้าที่หรือถูกร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยศาลที่มีเขตอำนาจ หรือโดยหน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานด้านภาษี หรือหน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงาน
บังคับใช้กฎหมายหรือหน่วยงานในลักษณะเดียวกัน
ข) ที่ปรึกษาหรือผู้ให้คำปรึกษาด้านวิชาชีพของบริษัทฯ รวมถึงทนายความ นายธนาคาร ผู้สอบบัญชี นักบัญชี และผู้รับประกันภัย ที่ให้บริการงานให้คำปรึกษา กฎหมาย การธนาคาร
การตรวจสอบ บัญชี หรือประกันภัยแก่บริษัทฯ
ค) สถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการระบบชำระเงิน เช่น สถาบันการเงินแห่งอื่นที่ให้บริการระบบการชำระเงินในการทำธุรกรรมของท่าน เป็นต้น
ง) ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท หรือพันธมิตรทางธุรกิจ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เช่น บริษัทซึ่งให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
บริษัทรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด บริษัทรับจ้างทำวิจัย บริษัทให้บริการเก็บข้อมูลบนระบบ Cloud บริษัทรับจ้างทวงหนี้ Facebook หรือ Line เป็นต้น
จ) ผู้ตรวจสอบภายนอก ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบอิสระของแฟ้มข้อมูลของท่าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาให้ตรงตามมาตรฐานการดำเนินงานของบริษัทฯ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านกับบุคคลหรือนิติบุคคลภายนอกกลุ่มบริษัท ซึ่งบริษัทฯ อาจขายหรือโอนธุรกิจหรือสินทรัพย์บางส่วนของบริษัทฯ ให้ หรือในทางกลับกันบริษัทฯ
อาจมีแผนเข้าซื้อหรือควบรวมกิจการกับบุคคลหรือนิติบุคคลภายนอก ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจของบริษัทฯ ธุรกิจของบริษัทฯ ในส่วนที่มีการขาย ได้มา หรือควบรวมกับบริษัทอื่น
(แล้วแต่กรณี) อาจมีการใช้ข้อมูลของท่านในลักษณะเดียวกับที่อธิบายไว้ในแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
6. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราและเราได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย
การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย
เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
7. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งต่อท่าน หรือตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
โดยในกรณีที่ท่านยุติความสัมพันธ์ หรือสิ้นสุดสัญญากับบริษัท หรือกรณีไม่มีการใช้บริการหรือการทำธุรกรรมกับบริษัท หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่แจ้ง
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือตามอายุความ หรือเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
8. สิทธิความเป็นส่วนตัวของท่าน
ในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ดังนี้
ก) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้กับบริษัทฯ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูล
ข) สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการที่มาซึ่งข้อมูลดังกล่าว
ค) ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
ง) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด
จ) สิทธิในการขอลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
ฉ) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด
ช) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่บริษัทฯ
มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง
ซ) สิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
9. การติดต่อบริษัทฯ ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย
หากท่านมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ รวมถึงมีคำขอใช้สิทธิของท่าน
กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลของบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อดังนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)
เลขที่ 348 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
อีเมล์:
[email protected]